top of page

Design Inspiring Node

CHILLAXING EAT OUT


SMITH

“Soi Klang” or Soi Sukhumvit 49 is a shortcut to Thong Lor area and other small sois packed with many well-decorated gourmet restaurants. Just 50 m. from the front of the soi on the left, “Smith”, the newly opened restaurant designed by Chanon Buranon,interior designer of GUS, Parowata is remarkablewith an eye-catching painting onthe galvanized iron panel. The graphics onthe restaurant’s exterior wall and the factory-like sliding door promise the engagementwith the meat. The concept of the ButcherStyle is elaborated through overall designfrom the aluminum door frame to the spaciousrestaurant area governed by the roughindustrial aesthetic atmosphere.

“Initially, we chose the location in Sukhumvit51but there’s a minor problem regarding thearea space. When we drove pass here, wefound the place’s right from the first glance.The entrance forces the customers to passthrough the narrow walkway which leads tothe spacious and stylish room.”, said KhunAuan-Chanon Buranon, the founder whoshares his passion with Chef Ian – PongtawatChalermkittichai and Chef Poon- ParompornPuipantawong, the co-founders.

This 2-level warehouse building was originallyconstructed with the green galvanized iron external panels and dark red steelstructure which is partly covered with densedpanels. After the renovation, some walls werepulled down and replaced with the black metalframed windows to allow lights to room.Moreover, the space is designed with sufficientdepth to support operational function.“We have hugely renovated the place particularly with the new floor plan whichcreates more space to the existing areawhile maintaining the same design to appearas an industrial warehouse with originalsteel structure, poles, wall shape, and thegalvanized iron panels. The staircase in themiddle is the newly constructed section inspiredby idea of commercial building’s steelmesh gate around Klong Toey where I drivepasses every day.“

All the painting appeared on the galvanizediron panels is created by Ploy GraphicArt while other butcher stuff such as thechandelier made of beef hooks, and the oldmaterials from the building are collectedto apply as parts of restaurant’s furnitureand decor harmoniously. Smith offers thecustomers story of the old in a new designfrom its architecture to the small details ofinterior decoration.

ซอยกลางฟังดูหลายคนอาจไม่คุ้นหูซึ่งจริงๆ แล้วมันคือซอยสุขุมวิท 49 ซอยซึ่งสามารถลัดเลาะไปย่านทองหล่อ และซอยเล็กซอยน้อยซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารสวยๆ อร่อยๆ มากมาย แค่เลี้ยวเข้ามา ไม่ถึง 50 เมตร ด้านซ้ายมือจากปากซอยสุขุมวิท 49 ก็ต้องสะดุดตากับผนังสังกะสี Paint ลายกราฟิก เท่ๆ ประตูเลื่อนสังกะสีเหมือนเป็นประตูโรงงานอะไรซักอย่างด้วยลายกราฟิกบอกได้ว่าหลังประตูบานนี้ น่าจะเป็นร้านอาหารหรือขายอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเนื้อสัตว์จากทางเข้าเล็กของโกดังที่ใช้เก็บเฟอร์นิเจอร์ หากเมื่อเปิดบานประตูกระจกกรอบอะลูมิเนียมเข้าสู่ภายในจะพบสเปซอันกว้างขวางท่ามกลางบรรยากาศดิบเท่ ซึ่งถูกออกแบบให้สอดคล้องกับคอนเซปต์ร้านแนว Butcher Style ผลงานมันส์ๆ ของชานนท์ บุรานนท์ อินทีเรีย ดีไซเนอร์แห่งบริษัท GUS, Parowata

“ในตอนแรกได้ที่แถวสุขุมวิท 51 ก่อน และมีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับพื้นที่พอดีขับรถผ่านแถวนี้และรู้สึกชอบตั้งแต่แรกพบ โดยทางเข้าร้านบังคับให้ลูกค้าเดินสู่ทางเข้าเล็กๆ ที่พอเปิดเข้าไปแล้วจะรู้สึกว่ามันกว้างใหญ่และดูเท่” คุณอั๋น-ชานนท์บุรานนท์ ได้เกริ่นให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของ ‘Smith’ร้านอาหารแห่งล่าสุดในซอยสุขุมวิท 49 ซึ่งก่อตั้งโดยตัวเขาเองร่วมกับเชฟเอียน-พงศ์ธวัช เฉลิมกิตติชัยและเชฟปูน-ปรมพร ปุ้ยพันธวงศ์

อาคารโกดังเก่าขนาด 2 ชั้นของ ‘Smith’ จากสภาพเดิมผนังภายนอกเป็นงานสังกะสีเขียวๆ ส่วนด้านในเป็นโครงเหล็กสีแดงเข้ม ผนังปิดทึบเป็นบางส่วน ภายหลังได้รับการรีโนเวทใหม่โดยการทุบผนังทึบบางจุด แล้วเปลี่ยนเป็นหน้าต่างบานกระจกกรอบเหล็กทาสีดำเข้ม เพื่อเพิ่มช่องแสงสู่พื้นที่ด้านใน อีกทั้งยังแบ่งสัดส่วนสเปซให้มีมิติของความลึกเพื่อรองรับลักษณะใช้งาน

“เรารีโนเวทไปเยอะมาก โดยเฉพาะการจัดแปลนใหม่ให้สามารถเข้าไปในพื้นที่เดิมมากขึ้น แต่การดีไซน์ก็อยากจะให้ดูแล้วเหมือนของเดิมไม่พยายามเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ยังคงเป็นโกดังเก่า ส่วนโครงเหล็กก็ยังเป็นของเดิม สีเดิม เสา รูปร่างผนังและสังกะสี สิ่งที่ทำใหม่คือการเจาะพื้นแต่งชั้นบันไดตรงกลางทั้งอัน โดยได้ไอเดียมาจากประตูตะแกรงเหล็กของตึกแถวที่ขับรถผ่านคลองเตยแล้วเห็นทุกวัน ส่วนคนที่ทำหน้าที่ต่างๆ ในร้าน เราก็จะตั้งชื่อลงท้ายด้วย SMITH เช่นกัน”

ลายเส้นบริเวณสังกะสีด้านหน้าร้านทั้งหมดเป็นผลงานของ Ploy Graphic Art “ตอนวาด น้องพลอยเขายิงโปรเจกเตอร์ และวาดปากกาสีบนสังกะสีอยู่หลายวันเหมือนกันและต้องสร้างลายเส้นให้ดูโหดเพื่อเข้ากับคอนเซปต์” ส่วนของตกแต่งมาจากเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับร้านค้าขายเนื้อ เช่นโคมไฟจากตะขอแขวนเนื้อ รวมไปถึงวัสดุเก่าของอาคารที่นำมาใช้เป็นชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ถือว่าเป็นงานออกแบบที่ดึงเอาของเก่ามาเล่าเรื่องใหม่ได้อย่างลงตัว Smith มีเรื่องราวตั้งแต่งานสถาปัตยกรรมของเดิมและเพิ่มใหม่ไปจนถึงองค์ประกอบเล็กๆ ในงานตกแต่งภายใน

 

LI TTLE BEAST

The first impression of Little Beast, the latest restaurant in Thong Lor reminds us of Muse Hotel in Lung Suan as these are the designs from PIA Interior Co., Ltd. The style of Art Nuveau are clearly seen from black leatherchairs, black and white marbles, bare concretefloor, rustic metal sheets on the wall,and the buttoned -high sofa which recallsthe memory of the movie The Godfather orMeet Joe Black. Amidst the dark grimy tone,the break of lovely gimmick of “Tang-May”,the co-founder’s French bulldog whose faceappeared on the menu and in vintage framedpictures wearing ancient costume from erato era.

The bar on the 2nd floor is covered with old timber top and couple sets of dining seats are set for a group preferring private function while the outdoor seats are made of multiple long pieces of teak tied up with metal sheets.

“The restaurant decoration is not quitecompleted yet. It will be fully opened in late August. Our first intention was that we justwant some place for our old friend studiedin New York to hang out together. One of ourpartners is in PIA management team so hegot a team to design the place for us” , saidKhun Plern Surapongchai.

The food is a fusion between American andcontemporary French served in small platefor everyone to share. The recommendedmenus are Crispy Pork Belly with freshcorn polenta, maple brown butter sauce (300Baht) Corned Beef Tongue, braised cabbage,potato coulis, mustard seeds (330 Baht)and Charcuterie (selection of three) - LittleBeast Terrine (Headcheese Terrine), ChickenFennel Sausage, Salmon Rillette by anotherco-founder Rangsima Boonyasaranant.

After the full course, don’t forget to orderthe signature drink like The Smokey Morning(280 Baht) which is the blend of HavanaClub Gold served in glass jar and the mapleleave’s smoke. Get 20% off all food and drinkuntil the end of August 2012.

ความรู้สึกแรกที่ได้จากการตกแต่งภายในแบบขรึมๆ ออกแนวอาร์ต นูโวของ Little Beast ร้านอาหารล่าสุดในทองหล่อ ทำให้นึกถึงโรงแรมMuse หลังสวน เพราะคนออกแบบเป็นทีมงานเดียวกันจาก PIA Interior Co., Ltd. ด้วยเก้าอี้หนังสีดำ หินอ่อนสีดำลายขาว พื้นดิบๆ ของปูนเปลือยผนังร้านประดับไปด้วยแผ่นโลหะขึ้นสนิมอาร์ตๆ และโซฟาสูงเย็บกระดุม ทำให้ร้านนี้ดูเหมือนฉากหนึ่งจากหนังเรื่อง The Godfather หรือ Meet Joe Black อยู่ไม่น้อย แต่ท่ามกลางความเคร่งขรึมก็แฝงไปด้วยความน่ารักเพราะ Little Beast ที่ว่านี่ ก็คือเจ้าแตงเม French bulldog สุนัขของเจ้าของร้านที่เสนอหน้าอยู่ในเมนูและในกรอบรูปแนววินเทจ ตามแบบยุคสมัยที่ต่างกันซึ่งติดอยู่บนผนังระหว่างที่ขึ้นบันไดไปสู่ชั้น 2

เมื่อขึ้นไปส่วนชั้น 2 จะพบกับบาร์ โดยมีท็อปเป็นลักษณะไม้เก่าวางอยู่กับส่วนที่นั่งอีกสองสามชุดซึ่งจัดไว้สำหรับกลุ่มที่ต้องการสนุกสนานในแบบส่วนตัวส่วนผนังเทาเข้มเดินเส้นกรอบขาวแบบ FREE FROMด้านนอกร้านก็มีความน่าสนใจตรงบริเวณที่นั่งที่นำไม้สักยาวหลายหลากชิ้นมามัดรวมกันด้วยเหล็กเป็นลักษณะที่นั่งยาวจัดเป็นชุดที่นั่ง Out Door ได้ 2-3 ชุด

“จริงๆ ทางร้านยังเสร็จไม่สมบูรณ์ค่ะ จะเปิดเต็มตัวประมาณปลายเดือนสิงหาคม ความคิดแรกคืออยากมีร้านในหมู่เพื่อนๆ ที่เรียนนิวยอร์กมาด้วยกันมาเป็นจุดนัดพบกันและพอดี 1 ใน Partner ที่ร้านเป็นผู้บริหารของ PIA ก็เลยมาช่วยหาทีมมาออกแบบให้ ส่วนเรื่องอาหารอยากได้เป็นแบบทานง่ายจานเล็กๆ ร้านก็เป็นร้านแบบพื้นที่เล็กๆ เชฟของที่ร้านก็รูปร่างเล็กๆ ก็เลยลงตัวที่ชื่อร้านนี้ค่ะ” คุณเพลินสุรพงษ์ชัย กล่าวถึงความเป็นมาของร้านและชื่อร้าน

เมนูอาหารเป็นแนวฟิวชั่นอเมริกันผสมฝรั่งเศสร่วมสมัย เสิร์ฟในจานขนาดเล็กสำหรับแบ่งกันรับประทานได้หลายคน ลองชิมหมูสามชั้น (300 บาท)ที่กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับแป้งข้าวโพด polenta แบบอิตาเลี่ยนกับซอสเนยเมเปิ้ลไซรับอีกจานที่พลาดไม่ได้ก็คือ ลิ้นวัวแช่เกลือ (330 บาท)หรือชิ้นเนื้อนุ่มที่แทบจะละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำเคี่ยวซอสมันฝรั่งและเมล็ดมัสมัสตาร์ด แต่ก่อนที่จะสั่งแบบคอร์ส อย่าลืมจานเด็ดเรียกน้ำย่อยอย่าง harcuterie ที่ทางร้านทำเอง ประกอบไปด้วยเทอร์รีนหัวหมู ไส้กรอกไก่ยี่หร่า เนื้อแซลมอนบดและอีกมากมาย (320 บาท สามอย่าง) ที่โชว์ฝีมือของเชฟ รังสิมา บุณยะสาระนันท์ ได้เป็นอย่างดีด้วย

อิ่มแล้วอย่าลืมแก้เลี่ยนด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทลอย่าง The Smokey Morning (280 บาท) ที่มีส่วนผสมของรัม Havana Club Gold เสิร์ฟในขวดโหลแก้วพร้อมด้วยเปลวควันจากใบเมเปิ้ล และที่สำคัญลด 20 เปอร์เซ็นต์ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม

 

THE SQUARE

The main design concept of The Square (All Day Dining) on 6th floor in Novotel Platinum Bangkok Hotel is the plentiful of natural resources referring to fish and crop. The main colour tone is originally from zircon one of the seven jewelries colour which is the theme design of the entire premise designed by the leading interior design company, IA49. The entrance is narrowed by the serviced counter overlaid with the pattern of veneer sheet similar to grasses and rice stalks. In the back is the dining zone placed with a long brown-greenish striped sofa and rows of tables. The hidden light helps creating attractive ambience to the restaurant. Each zone is designed to suit the preference of how the customers would like to be seated in. The middle section is the high counter for group function or single customer. The top of the counter is covered with grayish synthetic rock supported with dark veneer wood. The remarkable spot of The Square is the ceiling in the middle section as it is framed with teak lath with combination of shiny silver texture to reflect the light from rattan lamps hanging down in free form style. The buffet table top is made of acrylic with rice stalk pattern on it which is the same material to the light box above the buffet line. The furniture is modern and the ceiling texture is featured in a different style according to each zone. Overall, the zoning design influences the restaurant to be interesting and colours of ceiling materials are blended in the right combination.

ในน้ำมีปลาในนามีข้าวเป็นคอนเซปต์หลักของงานดีไซน์ในร้านอาหาร The Square (All Day Dining) ชั้น 6 ของโรงแรม Novotel Platinum Bangkok ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับส่วน Lobby โดยการใช้โทนสีหลัก มาจากอัญมณีสีเพทายซึ่งเป็นสีจาก 1 ในอัญมณีทั้ง 7 มาเป็นคอนเซปต์หลักของโรงแรม โดยบริษัท ออกแบบชั้นนำอย่างบริษัท อินทีเรีย อาร์คิเทคส์ 49 (IA49)

ทางเข้าร้านอาหารจะถูกบีบให้แคบลงโดยเคาน์-เตอร์เซอร์วิส ที่นำแพตเทิร์นของลาย Veneer ที่มีลักษณะเป็นริ้วลายคล้ายๆ กับต้นหญ้าต้นข้าวมากรุในส่วนนี้ ด้านหลังจะเป็นโซนนั่งทานอาหารที่มีลักษณะเป็นโซฟายาวสีลายทางน้ำตาลเขียว จัดโต๊ะเป็นส่วนๆ เรียงต่อเนื่องกันไปและมีการทำแพตเทิร์นเจาะช่องซ่อนไฟ ทำให้บรรยากาศด้านทางเข้าดูน่าสนใจไม่น้อย ภายในร้านจะแบ่งโซนนิ่ง โดยจัดกลุ่มเป็นส่วนๆ ตามลักษณะของรูปแบบการนั่งโดยส่วนกลางห้องเป็นการนั่งแบบเคาน์เตอร์สูงนั่งเรียงกันยาวสำหรับแยกที่จะมาใช้บริการเป็นกลุ่มหรือคนเดียว โดยท็อปให้เป็นหินสังเคราะห์สีเทาโดยใช้ขาเป็นลักษณะของไม้ Veneer ในโทนสีเข้ม

จุดเด่นของร้านนี้น่าจะอยู่ที่ฝ้ากลางร้านอาหารซึ่งโดยรอบเป็นลักษณะฝ้าระแนงไม้สัก และดร็อปตรง กลางทำสี Texture โดยสีมีความมันวาวเป็นสีเงินเพื่อสะท้อนแสงจากโคมไฟหวายในรูปแบบ Free Form ที่ดัดแปลงมาจากที่ดักปลาห้อยลงมาในระดับที่ต่างกัน กลับขึ้นไปบนฝ้า ในส่วนโต๊ะบุฟเฟต์มีการนำแผ่นอะคริลิกที่มีแพตเทิร์นเหมือนต้นข้าว เหมือนกับในส่วนของฝ้าที่มีลักษณะเป็นกล่องไฟเหนือบริเวณที่ตักอาหาร หรือการตกแต่งผนังโดยใช้หมวกชาวนามาดัดแปลงใหม่และจัดวางในรูปแบบให้ดูเป็นงาน Sculpture Wall และสีสันลวดลายของพรมสั่งทอพิเศษสอดคล้องกับคอนเซปต์ที่ทางดีไซเนอร์ได้คิดเอาไว้

รูปแบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวดูโมเดิร์นโดยมีลูกเล่นที่การเปลี่ยนฝ้าบุตามโซนนิ่งเพื่อให้บรรยากาศโดยรวมดูไม่น่าเบื่อ และมีสีสันช่วยเพิ่มรสชาติของการรับประทานอาหารได้ โดยภาพรวมแล้วร้านนี้มีความน่าสนใจโดยการจัดกลุ่มโซนนิ่งให้มีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปทั้งลักษณะการนั่งรับประทานอาหารสีสันวัสดุ การเล่นระดับฝ้า และการปรับเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ที่พื้น รวมถึงรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีการผสมผสานในรูปแบบที่แตกต่างกันทั้งรูปแบบและสีสันอย่างลงตัว

 

IF IT IS “ถ้ามันจะเป็น”

Sukhumvit 38 is known among the locals that there is plenty of food to choose from and the parking lot is rare. About 100 metres from the front of the soi, there is a cute little restaurant looking like a house at the foot of the hill or under the tree. The entrance door is decorated with many different styles of knobs as if they are secret codes to unlock the door. One of the owner, Nutchy revealed that “3 of us are architects who want to try something fun for our lives so we decided to open the restaurant. We want a restaurant where we can do whatever so we name it “If It Is”….If It Is Showroom, If It Is Restaurant. Sometimes we serve and sing, just whatever we want it to be” The white painting of tree branches on the dark gray wall is contrast with dropping wooden lath arch which is used to hide the air conditioner. The ceiling is considerably high so it is suitable to hang down the antique styled clocks which are actually applied as the light lamp. The restaurant is separated into 2 sections; the bottom part is set with group of tables with long built-in sofa as the core of floor plan and other styles of vibrant toned chairs can be set according to the numbers of customers. At the other corner, there is an extra long coffee table with long sofa which can accommodate 2 small groups of customers. The bar and table set for 8-10 people are placed on the upper floor section.

“Surprise is something we expect to happen in If It Is. From thedoor knobs to tables, we would like customers to choose their ownlocation whether it’s gonna be under the tree or on the tree shadow.We try our best to blend everyone’s opinion as one design”Fusion food can be found here and it is exceptional, try to calland book beforehand otherwise you might end up eating somenoodle around the main road instead.

หลายคนที่ทำงานแถวสุขุมวิทและชอบทำงานดึกๆ ก่อนกลับบ้านมักต้องแวะกินอาหารซึ่งมีให้เลือกหลากหลายบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 38 แถวนี้อย่างที่รู้กันว่าที่จอดรถหายาก ขับรถเข้าไปในซอยลึกมาก หากเข้ามาจากปากซอยประมาณ 100 เมตรก็ต้องสะดุดตากับร้านที่ดูน่ารัก คล้ายๆ บ้านริมภูเขาหรือใต้ต้นไม้อะไรอย่างนั้น ประตูทางเข้าใช้มือจับลูกบิดสวยๆ ทรงแปลกตาหลายๆ อัน เหมือนเป็นรหัสลับที่ต้องเลือกเปิดอันใดอันหนึ่งถึงจะเข้าไปได้เมื่อเข้าไปในร้านจึงได้พบกับน้องนุชชี่เจ้าของร้านยืนทักทายแขกอยู่บริเวณหน้าร้านพอดี และได้มีโอกาสพูดคุยกันถึงที่มาที่ไปของร้าน “เริ่มจากเพื่อนซึ่งเป็นสถาปนิกด้วยกัน 3 คน อยากทำอะไรสนุกๆกับชีวิต เลยมาเปิดร้านอาหารกัน ก็อยากได้ร้านที่ทำอะไรได้ทุกๆ อย่างเป็นอะไรก็ได้ก็เลยใช้ชื่อว่า IFIT IS คือแบบ showroom IF IT IS, RestaurantIF IT IS, บางวันก็เสิร์ฟไปร้องเพลงโชว์ไป มันจะเป็นอะไรก็ได้ที่เราอยากให้มันเป็น”

พอเข้าไปในร้านก็ต้องสะดุดกับทุกๆ อย่างจริงๆเริ่มจากภาพ paint สีขาวบนผนังสีเทาเข้มเป็นรูปต้นไม้ มีกิ่งไม้กระจายไปทุกๆ ด้านของผนังทั่วร้านตัดกับซุ้มระแนงไม้สักสีธรรมชาติดรอปลงมาเพื่อซ่อนแอร์หลบสายตาให้ดูกลืนไปกับฝ้าเพดานซึ่งโดยรวมของร้านถือว่าสูงมาก จึงสามารถ ห้อยโคมไฟที่เอานาฬิกาโคมไฟแบบโบราณมา apply ใช้ได้อย่างดูน่าสนใจ การจัดวางแปลนของร้านดูโดยรวมแล้วแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือด้านล่างข้างทางเข้าร้าน ด้านหนึ่งจัดโต๊ะเป็นชุดๆ โดยใช้เบาะที่นั่งบุผ้าแบบ Build-in ยาวเป็นแกนของแปลนและมีDinning Chair หลายรูปแบบหลากสีสันเป็นตัวแยกเซทการนั่ง ซึ่งสามารถแยกได้ตามจำนวนของกลุ่มแขกที่มา อีกด้านจัดเป็นชุดโซฟาโปร่งยาวร่วมกับCoffee Table ที่มีความยาวเป็นพิเศษจัดวางให้สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 2 กลุ่มย่อมๆ ส่วนด้านบนยกสเต็ปขึ้นไปเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ซึ่งใช้เป็นทั้งที่เก็บเงินและสามารถเป็นบาร์ได้ด้วย รวมถึงชุดโต๊ะซึ่งสามารถนั่งได้ 8-10 คนในส่วนนี้

“คอนเซปต์ของเราคือ IF IT IS คือจะเป็นอะไรก็ได้ทุกอย่างอยู่แล้ว อยากให้ทุกอย่างดูเซอร์ไพรส์ตั้งแต่เดินเข้ามาเลย ตั้งแต่มือจับประตู เข้ามาแล้วต้องเลือกว่าจะนั่งแบบไหนดี บรรยากาศด้านหน้าก็จะดูเหมือนนั่งใต้ต้นไม้ ด้านในเหมือนนั่งอยู่บนเงาไม้ อีกฝั่งที่เป็นอาร์ตของต้นไม้ที่ได้ออกมาเอาเฟอร์นิเจอร์เข้าไป คือพยายามจะคิดทุกๆ จุด เป็นความคิดร่วมกันของทุกๆ คนค่ะ เห็นตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่ก็ออกมาเป็นสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด”

และทั้งหมดนี้คือร้าน IF IT IS ร้านเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยสีสันในทุกๆ อณูของร้าน ส่วนเรื่องอาหารต้องลองมาชิมดูเองว่า “ถ้ามันจะเป็น” หรือไม่ แต่ขอบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ต้องโทรมาจองก่อนนะไม่งั้นอด ต้องไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยไม่รู้ด้วย

Source: ISSUE 03 AUG/SEP 2012

Fill your name, email and press subscribe

FOLLOW US
  • Black Facebook Icon
  • Black Twitter Icon
  • Black Pinterest Icon
  • Black Instagram Icon
SEARCH BY TAGS
No tags yet.
FEATURED POSTS
Check back soon
Once posts are published, you’ll see them here.
ARCHIVE

 Fill your name, email and press subscribe

bottom of page