NEW HOTEL DESIGN
Dating back to the 8th Century, there is one format of hotel which is still operating nowadays; it is known as “Ryokan”, a Japanese style hotel. Although the origin of the “hotel” existed long before that.
A good hotel is supposed to fulfill the travel experience of the traveler as well as assisting to create a smooth atmosphere for business talks. Excellent hotels could become an icon of the town if they remain in business for a long period of time. Note worthy hotels worth mentioning are “The Savoy” of London, “Raffles” in Singapore, and “The Wardorfastoria”in New York, whilst some are historically related to the town itself such as “The Peninsula”, “Peace Hotel” in Shianghai, and “The Oriental” of Bangkok.
In the era of globalization, there are as many diverse hotel types as there are flavors of ice-cream. Boutique hotels nowadays are uniquely designed as capsules, caves, huts,ice, or trees and also differ wildly in style, size, standard and price. However many hotels there are in existence, new ones still seem to appear in abundance. Some concentrate their efforts in creating unique points of difference so as to challenge the existing standard of what is considered normal design and service.
And the question is “What is the new trend in hotel design nowadays?”
“The Minimalist” which emphasizes open space and natural light? “Sustainable design” which is environmentally-friendly? “Home away from home” which not only reflects local culture but also provides some inspiration? “Warm and delicate” which is not overly luxurious? Or “Renovated and retaining character” which blends new aesthetical tastes with those of yesteryear? There are no formulated rules but the new trend could possibly be defined as multidisciplinary which offers more than one alternative as often was the case in the past. Additionally, factors to keep in mind for designers are marketability, context and environ-mental, target customers, budget, construction method and “uniqueness”. The following places are praised as “trendy”hotels; let’s discover the trend each one is famous for and what makes it unique. Keep your eyes open, these could be the next historical and contemporary iconic hotels that prosper in the future and blend together with the city.
หากจะอ้างอิงถึง “โรงแรม” ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีอายุยืนยาวมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และยังคงเปิดให้บริการอยู่จนถึงปัจจุบัน ก็น่าจะเป็น “เรียวกัง” ในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่า “โรงแรม” ในสถานะที่เป็นอาคารสาธารณะประเภทหนึ่ง ในงานสถาปัตยกรรมจะมีอายุเก่าแก่ย้อนขึ้นไปได้มากกว่านั้นก็ตาม
โรงแรมที่ดีช่วยเติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนของนักท่องเที่ยว พอๆ กับเป็น “ตัวช่วย” ให้การเจรจาธุรกิจราบรื่นสำหรับนักธุรกิจ โรงแรมที่ดีเหล่านี้หากมีอายุยืนยาวก็จะค่อยๆ เปลี่ยนสถานะไปเป็นสัญลักษณ์ควบคู่กับเมืองไปในที่สุด “The Savoy” แห่งลอนดอน, “Raffles” ในสิงคโปร์, “The Waldorf Astoria” ในนิวยอร์ก ลองนึกถึงเมืองใหญ่ต่างๆ ในโลกใบนี้ ควบคู่ไปกับโรงแรมที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับเมืองดูก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น “The Peninsula” ในฮ่องกง, “Peace Hotel” ในเซี่ยงไฮ้ หรือที่ใกล้ตัวที่สุด “The Oriental” ในกรุงเทพ
มหานครของเรานี่เอง
ในโลกไร้พรมแดนปัจจุบัน มีโรงแรมมากมายหลากหลายประเภทให้นึกถึงพอๆ กับรสชาติของไอศกรีม เรามีบูติคโฮเต็ล: แคปซูล, ถ้ำ, กระท่อม, โรงแรมน้ำแข็ง, โรงแรมต้นไม้ ฯลฯ” แทบจะทุกประเภทเท่าที่จะนึกได้ แตกต่างกันทั้งรูปแบบ, ขนาด, มาตรฐาน และราคาสำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะตัว ถึงกระนั้นก็ยังคงมีโรงแรมเปิดใหม่อยู่ทุกวันบนโลกใบนี้ และแน่นอนบางแห่งเรียกร้องความสนใจและท้าทายมาตรฐานแนวคิดเดิมๆ ของโรงแรมเก่าๆ ทั้งในแง่ของการออกแบบและการให้บริการไปพร้อมๆ กัน
คำถามก็คือ “อะไรคือเทรนด์ใหม่ในงานออกแบบโรงแรมในปัจจุบัน”
“ความเรียบง่ายในแบบ minimalist ที่เน้นพื้นที่โปร่งโล่งและแสงธรรมชาติ”? “Sustainable design ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”? สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ให้แรงบันดาลใจพร้อมๆ กับที่เป็น “Home away from home”? “อบอุ่น ละเอียดอ่อนและละเมียดละไมที่ไม่ดู over luxury”? หรือจะเป็น “ปรับปรุงและอยู่กับของเก่าและสอดแทรกสุนทรียภาพใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้มีรสชาติ” ทั้งหมดนี้คงจะไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แต่สิ่งที่น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ๆ ร่วมกันในวันนี้ ก็คือการประกอบกันของทางเลือกหลายๆ ทางเหล่านี้ มากกว่าคำตอบมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นสูตรสำเร็จเหมือนในอดีต นอกเหนือไปจากปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงควบคู่กัน ทั้งในแง่ของการตลาด บริบท และสภาพแวดล้อมกลุ่มลูกค้า งบประมาณ วิธีการก่อสร้าง และแน่นอนที่สำคัญ “เอกลักษณ์”
เราลองมาร่วมกันสำรวจตัวแทนโรงแรมใหม่ๆ ใกล้ๆ ตัวที่ได้ชื่อว่ากำลัง “In trend” กันดูว่าแต่ละแห่งอยู่ในเทรนด์ไหน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างไร และจับตาดูว่าจะสามารถกลายไปเป็นประวัติศาสตร์ร่วมสมัยกับเมืองในแบบเฉพาะตัวหรือไม่ในอนาคต
Sofitel So Bangkok The second hotel launched under the “So” brand belongs to the world renowned hotel manage-
ment network “Accor”. The building is situated in a prime spot of Bangkok between Sathorn Rd. and Rama IV, opposite the Lumpini Park. The hotel has been uniquely designed by OBA architecture and 5 leading interior design firms which are PIA Interrior, IA49, IAW, Deca Atelier, and August Design Consultant. These designers worked in collaboration with “Christiam Iscroix”, a French fashion designer, to deliver a new lifestyle and vibrancy to the Bangkokian.
Style : Modern Chic & Swanky
Combination : - Combined 238 guestrooms including suites - Red Oven, international buffet with a large open kitchen in the centre. - Chocolab, an imported chocolate shop with a distinct asmosphere - Mixo, a new style cocktail bar from Mixologist
- Park Society, a restaurant and bar on the 30th floor where you can take in the magnificent
view from the top
- Water Club, the infinity sky pool - So Spa, treatment for world class relaxation
What not to miss : The panoramic angle of Lumpini Park as viewed through a large window at the Sky Lobby which provides sensations similar to Central Park in New York City.
Selling points : 4 theme guestrooms
- Metal : Located on floors 14-16 and designed by Deca Atelier. This theme represents the purity and peace of white, and is decorated with a crafted metal cloud inspired from The Ramayana.
- Wood : Located on floors 17- 20 and designed by the National artist Khun Nithi Sthapitanonda in collaboration with IA49. This theme represents the beauty of wood and contemporary Thai character. All the paintings appearing in these rooms are from Khun Nithi’s own art collection.
- Earth : Located on floors 21-24 and designed by IAW. This theme comes in blue and represents the ancient cave which can be seen from the curved shape of the arched entrance, providing an ambience of fantasy.
- Water : Located on floors 25-28 which are the Executive Floors and designed by August Design Consultant. This theme represents a watery experience by placing toilets and the bath tubs next to windows for exclusive views, which is a rare offering you wouldn’t find in other hotels in the heart of the city. Besides, the room is larger than standard and designed to open to the view of Bangkok through the large window standing from floor to ceiling.
Contact Address : 2 North Sathorn Rd., Bangrak, Bangkok 10500
Tel : 66 2624 0000 Fax : 66 2624 0111 Email : H6835@sofitel.com Website : www.sofitel.com
Sofitel So Bangkok นับเป็นโรงแรมแห่งที่สองในแบรนด์ “So” ของเครือข่ายบริหารระดับโลกอย่าง “Accor” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (แห่งแรกตั้งอยู่ที่ Mauritius) ตัวอาคารตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯ ระหว่างถนนสาธรและถนนพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการออกแบบตกแต่งภายในจาก 5 บริษัทออกแบบตกแต่งชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท PIA Interior, บริษัท IA49, บริษัท IAW, บริษัท Deca Atelier และบริษัท August Design Consultant และออกแบบด้านสถาปัตยกรรมโดยบริษัท OBA ซึ่งทั้งหมดนี้ได้มีการทำงานร่วมกับแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังจากฝรั่งเศสอย่าง “Christian Iscroix” เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่และสีสันให้กับคนกรุงเทพฯ
สไตล์ : Modern Chic & Swanky
องค์ประกอบ : ห้องพักและห้องสวีท 238 ห้อง, ห้องอาหาร “Red Oven” ที่นำเสนอการปรุงอาหารนานาชาติจากหลากหลายเมนูผ่านครัวเปิดขนาดใหญ่กลางห้อง, “Chocolab” ให้บริการช็อกโกแลตนำเข้าจากต่างประเทศในบรรยากาศเฉพาะตัว, “Mixo” บริการค็อกเทลมิติใหม่จาก “Mixologist”, “Park Society” ห้องอาหารและบาร์บนชั้น 30 ที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม และสุดยอดวิวของกรุงเทพฯ ในมุมสูง, “Water Club” สระว่ายน้ำลอยฟ้า และ “So Spa” ทรีตเม้นท์เพื่อการผ่อนคลายระดับโลก
ห้ามพลาด : วิวของสวนลุมพินีในมุมกว้างเต็มจอในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านกระจกบานใหญ่บริเวณ Sky Lobby ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใน Central Park กลางกรุงนิวยอร์กมากกว่ากรุงเทพมหานคร
จุดขาย : ห้องพัก 4 themes จาก 4 designers
- ห้องพักธาตุโลหะบนชั้น 14-16 ของ Deca Atelier ให้โทนสีขาว บริสุทธิ์ สงบ ประดับด้วยงานศิลปะโลหะในแบบ “เมฆรามายณะ” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์
- ห้องพักธาตุไม้บนชั้น 17-20 ของคุณนิธิ สถาปิตานนท์ ศิลปินแห่งชาติร่วมกับ IA49 ที่เน้นงานออกแบบแสดงออกถึงความงดงามตามธรรมชาติของงานไม้และไทยร่วมสมัย และที่พิเศษจริงๆ ก็คือ ภาพประดับผนังห้องทุกห้องเป็นงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณนิธิเอง
- ห้องพักธาตุดินบนชั้น 21-24 ของ IAW ในโทนสีน้ำเงินเข้มที่นำแรงบัลดาลใจจากภาพเขียนผนังถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ มาผสมผสานกับเส้นสายโค้งมนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสีน้ำเงินสุดแฟนตาซี
- ห้องพักธาตุน้ำบนชั้น 25-28 ซึ่งเป็นโซน Executive Floor ของ August Design Consultant ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานและออกแบบ โดยเน้นมุมมองเปิดออกสู่วิวของกรุงเทพมหานครผ่านกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน โดยเฉพาะห้องน้ำและอ่างอาบน้ำที่ตั้งอยู่ชิดกระจกทุกห้อง ให้ประสบการณ์พิเศษที่หาได้ยากแตกต่างจากโรงแรมกลางเมืองใหญ่ทั่วๆ ไป
Hilton Pattaya The latest contemporary resort from Hilton, this branch of the worldwide hotel network is located in part of the biggest shopping complex in central Pattaya, known as “Central festival”. From the aerial location guests are able to observe the wonderful scenery of the Pattaya gulf. The concept of vertical resort was employed for the design of this hotel, therefore people are able to feel the sea breeze and enjoy the atmosphere on offer. This results in many awards such as the Luxury/upscale hotel award from Hospitality Design Magazine, HA+D Awards for Design Excellent from Hospitality and Architecture Design.
Style : Contemporary Modern
Combination : 302 guestrooms including the suites where guests can take in the spectacular 180 degree views of the sea. All rooms are equipped with balcony and full amenities. Drift-Lobby Lounge with a relaxing ambience. It is adjacent to the Sky Lobby, Shore-The restaurant and bar next to the sky pool, Edge-Main restaurant offering a variety of food and with a modern open kitchen, Flare-Exclusive restaurant with world-class menu in a private atmosphere, Ephoria Spa-New trendy spa from Hilton. Ballroom 320-600 person capacity room which is equipped with private balcony for Coffee breaks
What not to miss : The colour and atmosphere of the twilight. Enjoy the sunset on the large daybed above the water at the front balcony next to the lobby lounge. Experience the panoramic views of the Gulf of Pattaya by swimming at the edge of the sky pool which stretches out to the end of the building.
Selling points : - The distinct interior design of the Main Lobby is designed by Amata Luphaiboon and Twitee Vajrabhaya Teparkum from Department of Architecture, and is a favorite spot where guests can’t seem to resist taking a photo.
- All guestrooms are designed by August Design Consultant in a contemporary style, creating a relaxing atmosphere, whilst the large bathroom is open and flowing.
- The pool and the surrounding area is designed by TROP. It is composed of lively lines creating a retreat experience like no other.
Contact Address : 333/101 Moo 9, Nong Prue, Banglamun, Pattaya Chonburi, 20260
Tel. : 66-38-253000 Website www.pattaya.hilton.com
Hilton Pattaya รีสอร์ตร่วมสมัยแห่งล่าสุดในเครือข่ายระดับโลกของ Hilton เป็นส่วนหนึ่งของช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในพัทยากลาง “Central festival” จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวพัทยาได้โดยรอบ ผนวกกับความโดดเด่นในการออกแบบที่เน้นแนวคิดของ Vertical resort ทั้งภายนอกและภายในตัวอาคาร ล้วนให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศและกลิ่นไอของทะเลที่จับต้องสัมผัสได้ ทำให้โรงแรมได้รับรางวัลมากมาย เช่น Luxury / upscale hotel award จาก Hospitality Design Magazine, HA+D Awards for Design Excellent จาก Hospitality and Architecture Design เป็นต้น
สไตล์ : Contemporary Modern
องค์ประกอบ : ห้องพักและห้องสวีท 302 ห้อง มีจุดเด่นที่มุมมองวิวทะเล 180 องศา และระเบียงส่วนตัวพร้อม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน,Drift ลอบบี้เลานจ์ในบรรยากาศผ่อนคลายต่อเนื่องกับ Sky Lobby, Shore ร้าน อาหารและบาร์ริมสระว่ายน้ำลอยฟ้า, Edge ห้องอาหารหลักที่นำเสนออาหารหลากหลายผ่านบรรยากาศของครัวเปิดที่ทันสมัย, Flare ห้องอาหารพิเศษที่มาพร้อมกับเมนูอาหารระดับโลกในบรรยากาศส่วนตัว, Ephoria Spa
สปาแนวใหม่จาก Hilton ในบรรยากาศทันสมัย, Ballroom ขนาดความจุประมาณ 320-600 คน ที่มีระเบียงพิเศษส่วนตัวสำหรับ Coffee break
ห้ามพลาด : บรรยากาศและสีสันยามเย็น พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบน Daybed ขนาดใหญ่เหนือน้ำบริเวณระเบียงด้านหน้าอาคารติดกับส่วนลอบบี้เลานจ์ และว่ายน้ำในสระว่ายน้ำลอยฟ้าไปยังส่วนที่ยื่นออกไปไกลที่สุดนอกอาคารเพื่อสัมผัสกับวิวอ่าวพัทยาในแบบพาโนรามา
จุดขาย : - งานออกแบบตกแต่งภายในที่โดดเด่นเฉพาะตัวบริเวณ Main Lobby ของอมตะ หลูไพบูลย์ และ ทวิตีย์ วัชราภัย เทพาคำ ทายาทแห่ง Department of Architecture ที่ทำให้แขกส่วนใหญ่อดไม่ได้ที่จะต้องยกกล้องถ่ายรูปในมือขึ้นมาถ่ายรูปไว้ด้วยความชื่นชม
- ห้องพักทั้งหมดในรูปแบบร่วมสมัยที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมา พร้อมกับห้องน้ำขนาดใหญ่และโปร่งโล่ง ผลงานของบริษัท August Design Consultant จำกัด
- สระว่ายน้ำที่และบรรยากาศรอบๆ ที่มีองค์ประกอบของเส้นสายสนุกสนาน และสามารถสร้างประสบการณ์ พักผ่อนที่แตกต่าง จากผลงานของบริษัท TROP
The Siam The latest luxury boutique hotel to adorn the Chao Praya river is planned and designed by Khun Noi Krissada Sukosol Clapp and Bensley Design Group by
Bill Bensley. The building is composed of 4 stories in art deco black and white style, with the courtyard situated in the middle of the premises. The design is inspired by Musee d’Orsay in Paris. The design is focused on metal and glass structures mixed with Colonial architecture. There are 39 rooms and one villa which is actually Connie’s Cottage (Jim Thomson’s best friend house), which is over a hundred years old and was relocated from Ayutthaya, the reflection of the east and the west which beautifully adds to the overall ambience.
Style : Contemporary oriental & eclecticism
Combination : 39 guestrooms (Siam Suite, Mae Nam Suite, Riverview Suite, Pool Villa Riverview and Connie’s cottage), Jazz Bar, Restaurant, Fitness Center
What not to miss : The open space along the swimming poolnear Chao Praya river and the open spacenear the pier where romantics are able totake in the sunset at Chao Praya river in theevening.
Selling points : Only 39 rooms on 11,200 m2 of land represents privacy and peacefulness along the river with 6-star service and full facilities. The decorations on offer in the building and in the guestrooms are collectibles and antiques composed of photography, porcelain china, dolls, medicine cabinets, posters, and household accessories which belonged to Sukosol’s family which reflect Thai culture,ideas, and lifestyle.Contact
Address : Thanon Khao, Vachirapayabal , Dusit, Bangkok, 10300
Tel: 66 2206-6920 Fax:: 66 2206-6990
Website : www.thesiamhotel.com
The Siam The Siam เป็นโรงแรม Luxury Boutique แห่งใหม่ล่าสุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เชิงสะพานตากสินที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเจ้าของโครงการ คุณน้อย กฤษฎา สุโกศล แคลปป์ และ Bensley Design Group โดย Bill Bensley เป็นผู้รับหน้าที่ออกแบบงานสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตย์และตกแต่งภายในทั้งหมด ภายในตัวอาคาร 4 ชั้น แบบอาร์ตเดคโค่สีขาวดำที่มีคอร์ตยาร์ดตรงกลาง ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพิพิธภัณฑ์ดอร์แซ (Musee d'Orsay) ด้วยงานเหล็กและกระจกเป็นโครงสร้างสำคัญ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล เป็นที่ตั้งของห้องพักทั้งหมดเพียง 39 ห้อง ผนวกกับ Connie’s Cottage ซึ่งเป็นบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปีที่ถูกย้ายมาจากอยุธยา เพื่อมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ The Siam ทำให้ภาพรวมของโครงการดูสวยสง่างาม ร่วมสมัย และมีกลิ่นไอของตะวันตกผสมผสานกับตะวันออกไปในขณะเดียวกัน
สไตล์ : Contemporary oriental & eclecticism
องค์ประกอบ : ห้องพัก 39 ห้องแบ่งเป็น Siam Suite, Mae Nam Suite, Riverview Suite, Pool Villa Riverview และ Connie’s cottage นอกจากนี้ยังมี Jazz Bar, Restaurant และ Fitness Center
ห้ามพลาด : ลานริมสระว่ายน้ำด้านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและลานด้านหน้าใกล้กับท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังเหลือบแสงลงลับขอบฟ้าให้บรรยากาศที่โรแมนติกเป็น พิเศษ
จุดขาย : ห้องพักจำนวนจำกัดเพียง 39 ห้อง เมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาด 7 ไร่ของโครงการ นำเสนอความเป็น ส่วนตัว เงียบสงบริมน้ำด้วยความสุขสบายกับการพักผ่อนพร้อมบริการระดับ 6 ดาว และสันทนาการอย่างครบครัน ในพื้นที่อาคารส่วนต่างๆ และภายในห้องพักทั้งหมด จัดแสดงของเก่าและของสะสมส่วนตัว ทั้งของคุณน้อยและของตระกูล สะท้อนวัฒนธรรม ความคิด และความเป็นอยู่ของคนไทยในอดีต ผ่านเรื่องราวในภาพถ่าย ถ้วยโถโอชาม ตุ๊กตา ตู้ยา แผ่นภาพโปสเตอร์ และเครื่องเรือนหลากหลายสไตล์ จนกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสอดแทรกอยู่อย่างกลมกลืนในการตกแต่งภายใน
Source: ISSUE 04 OCT/NOV 2012
