ENVIRONMENTAL FRIENDLY COLORS
We can’t deny about psychological effects of the colors to our life, a selection of residences, cars, mobiles or daily goods are categorized by colors for pricing, tasting or taste of users.
Now a day, Eco-friendly is attended bysocial trend. Designers always use colorsscheme to arouse users. Each color makes adifferent psychological effects which dependon varied factors; culture, knowledge, experience,personal belief.
Eco-friendly color scheme, internationallyknow as a natural color scheme; Green,Brown, Grey and Blue. Therefore, let’s consideron meaning and psychological effectsof the colors. Does it same as me?
• Green means fertile, water-rich environment. It is perceived as calming, relax and reassuring. • Brown means a color of earth. It is perceived as strong, stable, safe and reassuring. • Blue means as water, sea, sky. It is perceived as inspiration, calming, creativity, cold, clean. • Grey is perceived as safe, trust, conservative, old and modesty.
Besides, as mentions above, a selectioncolor scheme as eco-friendly color hadeffected directly to Corporate Image, Branding,Products and also Consumer whoconcern on environment.
Finally, eco-friendly should base on environmentalfriendly conceptual idea. Color isdesigned to help on Image and Looks. TheMost important factor is a product which trulyreduces environmental effect andcertainlycreates through sustainable design.
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย สี
เรื่องของสีนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา อย่างปฏิเสธไม่ได้ การจะเลือกซื้อบ้าน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ หรือแค่ของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน อย่างสบู่ ยาสีฟัน ยังต้องมีสีเพื่อแบ่งแยกตามประเภทราคา รสชาติ หรือรสนิยมของผู้บริโภค
ในปัจจุบัน กระแสสังคมกำลังเอาใจใส่กับสิ่ง-แวดล้อมเป็นพิเศษ (eco friendly) ผู้ออกแบบจึงต้องเลือกใช้กลุ่มของสี (scheme) ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไปในทางนี้เช่นกัน ซึ่งสีแต่ละสีนั้น ก็ให้ผลในทางจิตวิทยาต่างๆ กันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายๆ อย่างตามวัฒนธรรม ความรู้ประสบการณ์ และความเชื่อของแต่ละคน
แต่กลุ่มของสีที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตรต่อสิ่งแวด-ล้อมอย่างเป็นสากลและเข้าใจตรงกันทั่วโลกนั้นได้แก่ กลุ่มของสีเขียว สีน้ำตาล สีเทา สีน้ำเงินลองมาพิจารณาความหมาย หรือความรู้สึกที่เกิดจากสีเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน ว่าตรงกันกับผมหรือเปล่า?
สีเขียวความอุดมสมบูรณ์, การเกษตร, อาหาร,การเติบโต, สดชื่น, ธรรมชาติ, สิ่งแวดล้อม,สุขภาพ, ปลอดภัย, สมดุล, เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่,มิตรภาพ (สีเขียวในทางจิตวิทยา : การมองเห็นสีเขียวสามารถลดวามเครียด ลดอาการตื่นเต้น และช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สีเขียวนี้ทำให้สบายตาและช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้น) สีน้ำตาลพื้นดิน, ทนทาน, เข้มข้น, มั่นคง, อายุยืน,เรียบง่าย
สีน้ำเงิน - สีฟ้าแรงบันดาลใจ, สงบ,นุ่มนวล, น้ำ, ทะเล, ท้องฟ้า, ความคิดสร้างสรรค์, อิสระ, ความเชื่อใจ, เป็นปึกแผ่น, หนาวเย็น, ความสะอาด
สีเทาปลอดภัย, เชื่อถือได้, เงียบขรึม, ถ่อมตัว,อนุรักษ์นิยม, แก่, เศร้า-หม่นหมอง,น่าเบื่อ, ทนทาน
นอกจากจะให้ความหมายดังที่กล่าวไปแล้ว การ เลือกใช้สี ในกลุ่ม eco friendly นี้ยังส่งผลต่อ ภาพลักษณ์ขององค์กร ตราสินค้า สินค้า ตลอดจน ถึงผู้ที่บริโภคสินค้า ว่ามีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยหรือไม่ จึงไม่แปลกใจเลยว่าสีใน scheme นี้ ถูกเลือกไปใช้ในสินค้าแทบทุกประเภทตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น น้ำทิพย์ ออกโลโก้ใหม่บนขวดน้ำดื่ม ภายใต้แนวความคิดรักษ์โลก ลดขยะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก eco car แต่ละยี่ห้อมักใช้ สีเขียว / ฟ้า / ขาว เป็นสีของสินค้าหลัก
ขอฝากไว้ว่า eco friendly ต้องเริ่มมาจากแนวคิดหลักที่จะผลิตสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานเสียก่อน ส่วนนักออกแบบนั้นก็ใช้การออกแบบและสีสัน ช่วยตอกย้ำให้เกิดความรู้สึกeco friendly ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสำคัญที่สุดก็คือตัวสินค้า ต้องสามารถลดการเกิดมลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติได้จริงๆ จึงจะเกิดผลตามความหมายของ eco friendly ครับ
Source: VOL 02 ISSUE 01 FEB / MAR 2013