top of page

Design Inspiring Node

CHIC SHOPPING AROUND SOHO, HONG KONG ช็อปแบบ chic chic ย่าน Soho, Hong Kong


When talking about a trip to Hong Kong, “shopping” will be on traveler’s mind especially the brand name stuff for sale. This trip, however, will lead you to a chic lovers’ paradise in Soho comprised of Staunton Street, Elgin Street, Peel Street, Aberdeen Street and Graham Street where you will discover rows of boutique shops, art gallery, decor shop, stationary shop, restaurants, clubs and bars. Structure of most buildings downtown is a mix-use type which utilizes the ground floor as a commercial shop and residential accommodation on the upper floors. These buildings are built on the hill making it’shard to walk but if you prepare yourself with stamina the shopping will be fine. Most shops are one-floor with a mezzanine floor and owners usually decorate the ground floor beautifully while leave the upper floor in original bare concrete. One of the two distinctive shops in Soho is located on Staunton street called Prints, a paper shop owned by the Swedish selling chic wrapping paper, gift box, cool cards, and stationary. The shop is decorated with bright blue frame and Print logo. Another one is located on Peel Street called Chocolate Rain selling creative miscellaneous stuff where you can notice large pile of toys attached on top of the shop. To access the area, just simply catch the MTR to Central station, D2 exit and walk to Hollywood street. The landmark of the area is a former Central District Police Station “CPS” which will be renovated to a new art and culture center by Herzog & de Meuron Swiss architect. Other thing worth visiting in Hong Kong is Le French May Festival which will take place from April to the end of June. This festival exhibits painting, sculpture, opera, contemporary dance, French film and food festival, and fashion show (http://www.frenchmay.com)

เล่มนี้ถือเป็นเล่มปฐมฤกษ์ของคอลัมน์ On The Go ที่จะพาเหล่าดีไซเนอร์ไปซอกซอนเมืองต่างๆ แบบเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นการพาไปชิม/ แนะไปช้อป/ ชวนไปดื่ม/ และตามไปดู โดยอาจจะเป็นย่านที่ไม่ฮิต ไม่ tourist แต่เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด ซึ่งก็หวังว่าการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ อาจจะเปิดคอลัมน์นี้ดูก่อนที่จะวางแผนท่องเที่ยวก็เป็นได้

สำหรับฉบับนี้ขอเอาฤกษ์เอาชัยพาเที่ยวในเมืองใกล้ๆ อย่างฮ่องกงก่อน จริงๆ แล้วฮ่องกงไม่ได้เล็กอย่างที่เราคิด ฮ่องกงมีขนาดใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ มาก จากพื้นที่โดยรวม (1,096 km2) เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ (1,568 km2) แล้ว เล็กกว่ากรุงเทพฯ ไม่ถึง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้เพราะฮ่องกงประกอบไปด้วยเกาะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกาะฮ่องกง, เกาลูน, เขตดินแดนใหม่ และอื่นๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้ว จะคุ้นเคยกับเกาะฮ่องกงและเกาลูนมากที่สุด เพราะมีย่านช้อปปิ้งมากมายให้จับจ่ายได้ทุกเวลา สมกับที่ขึ้นชื่อว่าฮ่องกงเป็นสวรรค์แห่งนักช้อป อย่างไรก็ตามการเดินทางของเราคราวนี้ ไม่ได้จะพาไปร้านแบรนด์เนมลดราคาหรือย่านเอาท์เลทราคาถูก แต่เราจะพาไปตะลุยมุมกิ๊บๆ ที่ Soho ในเกาะฮ่องกงกัน คำว่า Soho นั้นมีที่มาจากที่ตั้งของถนนต่างๆ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของถนน Hollywood (Soho=South of Hollywood Road) เช่น Staunton Street, Elgin Street, Peel Street, Aberdeen Street และ Graham Street แนะนำว่าให้เผื่อเวลาไว้อย่างต่ำครึ่งวันได้เลย เพราะที่นี่เป็นย่านที่ประกอบไปด้วยร้านขายของแบบบูติก, อาร์ตแกเลอรี่, ร้านขายของแต่งบ้าน, ร้านเครื่องเขียน, ร้านอาหาร, คลับและบาร์ ฯลฯ มาเดินเล่นกันได้ตั้งแต่หัววัน เพราะร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 11 โมง ไปจนถึงสามสี่ทุ่ม ในขณะที่ร้านอาหาร คลับ บาร์ ก็เปิดสายปิดดึกกว่าตามลำดับ เดินไป ช้อปไป ดูงานอาร์ตตามแกเลอรี่ไป ถ้าเดินเหนื่อยๆ ก็แวะหาอาหารทาน พอตกดึกก็รวมพลแฮงค์เอาท์ดื่มกันต่อก็ได้ไม่ว่ากัน เรียกได้ว่าย่านนี้มีครบทุกรส

และเนื่องจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดในฮ่องกง อาคารในเมืองส่วนใหญ่จึงเป็นแบบ Mixed-uses โดยมีชั้นล่างเป็นร้านขายของ และชั้นบนเป็นที่พักอาศัย รวมถึงลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ก็ส่งผลให้อาคารต่างๆ ในย่านนี้ซึ่งเป็นตึกแถว 3-5 ชั้นต้องสร้างอยู่บนพื้นที่ลาดชัน ดังนั้นถ้าใครมาเดินแบบเก็บทุกจุด นอกจากจะเตรียมกำลังใจ และกำลังทรัพย์แล้ว ขอให้เตรียมกำลังขามาด้วยเช่นกัน เพราะเรากำลังเดินขึ้นเขาลงเขาช้อปปิ้งกันอยู่ ร้านค้าเกือบทุกร้านจะมีแค่ชั้นเดียวหรือมีชั้นลอยอยู่ด้วย และแต่ละร้านถูกออกแบบพื้นที่หน้าร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยสีสันต่างๆ กันไป ขณะที่การออกแบบภายในร้านก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ภาพรวมที่เห็นเหมือนกับอาคารที่ได้รับการแต่งตัวมาอย่างดีเฉพาะด้านล่าง แต่ด้านบนยังคงปล่อยเปลือยตามแบบตึกแถวเก่าที่ไม่ได้รับการตกแต่งใดๆ ซึ่งนี่ถือเป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดและพบเห็นได้หลายๆ ที่ในเกาะฮ่องกง

มากันที่ร้านที่ไม่ควรพลาดใน Soho นี้ มีอยู่ 2 ร้านด้วยกัน ซึ่งได้เลือกร้านที่คิดว่าทุกคนน่าจะอยากเข้า เลยไม่เลือกแนะนำร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ เพราะคงเป็นความชอบส่วนบุคคล ร้านที่เลือกมาร้านแรกจึงเป็นร้านขายกระดาษ เอ๊ะ! ทำไมร้านขายกระดาษถึงน่าเข้า เพราะร้านนี้ไม่ใช่ร้านขายกระดาษธรรมดา แต่เป็นร้านขายกระดาษที่มีลวดลายแบบสไตล์สวีดิช ร้านมีชื่อว่า Prints เจ้าของร้านและผู้ออกแบบเป็นชาวสวีเดน จริงๆ แล้ว Prints มีสาขาในเมืองอื่นๆ นอกจากฮ่องกง เช่น ลอนดอน สิงคโปร์ และโตเกียว ของในร้านส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหากระดาษห่อของขวัญและกล่องของขวัญที่มีลวดลายเท่ๆ การ์ดอวยพรกราฟฟิกเก๋ๆ และอุปกรณ์เครื่องเขียนดูดีมีดีไซน์ ราคาสินค้าโดยรวมก็ยังอยู่ในงบที่พอคบหาได้ ถ้าไม่ซื้อก็ไปเดินดูไอเดียกราฟฟิกแบบสวีดิชก็คุ้มแล้ว ร้านตั้งอยู่ที่ถนน Staunton ใครเดินผ่านต้องสะดุดกับกรอบผนังสีฟ้าสดใสและโลโก้ Prints หน้าร้านแน่นอน ร้านที่สองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นร้านที่ดึงดูดตั้งแต่หน้าร้าน ขณะที่เราเดินอยู่ที่ Peel Street ก็ต้องตกใจกับหน้าร้านร้านหนึ่งที่ดูเหมือนเอากองของเล่นมาแปะรวมๆ กัน Chocolate Rain เกิดจากแรงบันดาลใจจากความฝันในวัยเยาว์และการผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ ดีไซเนอร์และเจ้าของเป็นชาวฮ่องกง ที่สร้างตัวละครอย่างตุ๊กตาสาวน้อย Fatina ให้มาโลดแล่นอยู่ในงานของเธอ งานทุกชิ้นเป็นงานแฮนด์เมด Chocolate Rain ไม่ใช่ร้านขายของกิฟท์ช็อปคิกขุทั่วๆ ไป แต่มีดีกรีรางวัลมากมาย และได้มีโอกาสจัดแสดงงานในหลายที่ทั่วโลก เช่น ลอนดอน ปารีส และโตเกียว ใครอยากหาข้อมูลร้านต่างๆ เพิ่มเติมก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.ilovesoho.hk/

ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการมาย่านนี้ก็ไม่ยากเลย สามารถนั่งรถใต้ดิน (MTR) มาลงที่สถานี Central ออกทางออก D2 แล้วเดินตัดมาเรื่อยๆ ก็จะเจอถนน Hollywood หรือจะเอาหลักง่ายๆ อีกอย่างคือ ไม่ไกลจากย่านนี้จะมีอาคารอนุรักษ์ซึ่งเป็นสำนักงานตำรวจและคุกเก่า (Central District Police Station “CPS”) ตั้งอยู่ ที่กำลังจะถูกปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของเมือง โดย Herzog & de Meuron คู่หูสถาปนิกชาวสวิสเป็นผู้ออกแบบ ถ้าใครมีโอกาสไปแถวนั้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็อย่าพลาดไปชมผลงานชิ้นแรกของ Herzog & de Meuron ในฮ่องกงด้วยแล้วกัน

นอกจากนี้ระหว่างกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนมิถุนายน ทั้งฮ่องกงและมาเก๊ามีงานเทศกาล Le French May ซึ่งเป็นเทศกาลงานศิลปะฝรั่งเศสที่ร่วมทำขึ้นระหว่างกงสุลฝรั่งเศส, สมาคมฝรั่งเศส และฝ่ายศิลปวัฒนธรรมของเมืองฮ่องกง โดยปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 20 แล้ว งานนี้มีกิจกรรมมากกว่า 500 กิจกรรม ทั้งที่เป็นภาพศิลปะ, งานประติมากรรม ไปจนถึงการแสดงโอเปร่า, การเต้นแบบร่วมสมัย, เทศกาลภาพยนตร์, เทศกาลอาหารฝรั่งเศส และแฟชั่นโชว์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งผลงานของศิลปินจากฝรั่งเศสและฮ่องกง มาแสดงงานร่วมกันทั่วเมืองหมุนเวียนกันไป สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและดูตารางกิจกรรมได้ที่ http://www.frenchmay.com/

จะว่าไปใครที่เริ่มเบื่อฮ่องกง บอกไม่รู้จะไปทำไมมีแต่ช้อปปิ้งและช้อปปิ้ง ถ้าลองดูปฏิทินกิจกรรมงานเทศกาลของเมืองนี้ เรียกได้ว่าที่นี่เค้ามีงานเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมตลอดทั้งปี เอาเป็นว่าใครที่วางแผนจะมาฮ่องกงคราวหน้าก็สามารถหากิจกรรมอย่างอื่นทำกันได้แล้ว และที่แน่ๆ อย่าลืมไปเดินขึ้นเขาเล่นๆ ที่ย่าน Soho ด้วย เดี๋ยวจะมีคนหาว่ามาไม่ถึงฮ่องกง

Source: ISSUE 02 JUNE 2012

Fill your name, email and press subscribe

FOLLOW US
  • Black Facebook Icon
  • Black Twitter Icon
  • Black Pinterest Icon
  • Black Instagram Icon
SEARCH BY TAGS
No tags yet.
FEATURED POSTS
Check back soon
Once posts are published, you’ll see them here.
ARCHIVE

 Fill your name, email and press subscribe

bottom of page